1438 จำนวนผู้เข้าชม |
สำหรับใครที่เป็นโรคไต และโรคเบาหวาน อาจต้องปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนดื่มน้ำมะพร้าว เพื่อหาปริมาณที่พอเหมาะกับร่างกาย เพราะอย่างไรแล้ว น้ำมะพร้าวก็เป็นน้ำผลไม้ที่มีน้ำตาล และโพแทสเซียม
แพทย์หญิงธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล หรือ หมอผิง ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและเวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ระบุว่า “น้ำมะพร้าวมีประโยชน์ เป็นเครื่องดื่มเกลือแร่ให้พลังงานตามธรรมชาติ แต่จัดว่าน้ำตาลสูง แม้จะเป็นน้ำตาลธรรมชาติ แต่ดื่มมากไปก็อ้วนได้เช่นกัน” โดยน้ำมะพร้าว 1 ลูก ปริมาณ 282 กรัม มีปริมาณน้ำ 94 กรัม น้ำตาลฟรุกโตส 8.1 กรัม น้ำตาลกลูโคส 8.5 กรัม น้ำตาลซูโครส 4.0 กรัม รวมเท่ากับน้ำตาลถึง 5.1 ช้อนชาเลยทีเดียว
นอกจากนี้ นายแพทย์ กัมปนาท พรยศไกร ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ แอดมินแฟนเพจเฟซบุ๊ก Sarikahappymen และข้อมูลจากโรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ระบุตรงกันว่า การดื่มน้ำมะพร้าวที่ทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนเพิ่มมากขึ้น อาจไปเพิ่มการบีบตัวของมดลูกเวลามีประจำเดือน ทำให้ผู้ใหญ่หลายๆ คนมักบอกให้หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำมะพร้าวในช่วงนั้นของเดือน แต่อย่างไรก็ตามต้องเป็นการดื่มในปริมาณมากๆ จริงๆ ถ้าดื่มเพียงแก้วสองแก้ว ไม่ส่งผลต่อการปวดท้องประจำเดือนแน่นอน (ทั้งนี้ปริมาณที่เหมาะสมของแต่ละคนอาจไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน) นอกจากนี้ น้ำมะพร้าวยังไม่มีผลทำให้ประจำเดือนหยุด หรือกะปริบกะปรอย และทำให้มีประจำเดือนมาไม่ปกติ แต่ไฟโตเอสโตรเจนในน้ำมะพร้าวจะช่วยควบคุมรอบประจำเดือนให้มาตามปกติมากกว่า